Xiaomi แบรนด์สมาร์ทโฟนยอดฮิตสัญชาติจีน ถูกผู้เชี่ยวชาญด้านการทดสอบประสิทธิภาพมือถือออกมาแฉว่า ทางบริษัทได้จำกัดประสิทธิภาพการทำงานของซีพียูที่อยู่ใน Mi 11 กับแอปพลิเคชันบางตัว โดยเฉพาะเกมดังอย่าง Fortnite และ Genshin Impact โดยพบว่าคะแนนการทำงานในส่วน Single-core และ Multi-core ลดลงจากปกติถึง 30% และ 16% ตามลำดับ จนทำให้ค่ายดังแดนมังกรแห่งนี้ถูกวิจารณ์ถึงความโปร่งใสในการทำธุรกิจ เพราะประสิทธิภาพในการใช้งานจริงไม่สอดคล้องกับคำโฆษณา
Xiaomi อาจจำกัดความเร็วซีพียูในมือถืออีกหลายรุ่น ทั้ง Mi11 Pro, 11 Ultra และ 11X Pro

“จอห์น พูล” (John Poole) ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัท Primate Labs ที่เป็นผู้พัฒนาหลักของ Geekbench แพลตฟอร์มทดสอบประสิทธิภาพสมาร์ทโฟนชื่อดัง ได้ออกมาเปิดเผยว่า Xiaomiแบรนด์สมาร์ทโฟนยอดฮิตสัญชาติจีน ได้จำกัดประสิทธิภาพการทำงานของซีพียูที่อยู่ใน Mi11 กับแอปพลิเคชั่นจำนวนหนึ่ง โดยเฉพาะแอพเกมยอดฮิตอย่าง Fortnite และ Genshin Impact ที่ประสิทธิภาพซีพียูในส่วน Single-core และ Multi-core ถูกลดทอนลงไปถึง 30% และ 16% ตามลำดับ

ทั้งนี้ คาดว่าทาง Xiaomiอาจทำไปเพราะต้องการควบคุมความร้อนของตัวซีพียูและแบตเตอรี่ไม่ให้ร้อนเกินไป ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น เพียงแต่ไม่อาจรู้ได้ว่าทางบริษัทตั้งค่าการทำงานของซีพียูแบบนี้มาตั้งแต่ออกจากโรงงาน หรือเพิ่งจะมีการเปลี่ยนแปลงในการอัพเดตซอฟต์แวร์หลังวางจำหน่ายไปแล้ว ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีการคาดการณ์ว่า บริษัมอาจจะทำแบบเดียวกันนี้กับมือถือตัวท็อปอีกหลายรุ่น ไม่ว่าจะเป็น Mi11i, Mi11 Pro, Mi11 Ultra ซึ่งทั้งหมดล้วนใช้ชิปตัวท็อปของปีที่แล้วอย่าง Snapdragon 888 และอาจรวมถึง Mi11X Pro ที่วางขายในอินเดียด้วยเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม Xiaomiไม่ใช่เคสแรกที่ถูกแฉว่ามีการจำกัดประสิทธิภาพซีพียู เพราะเมื่อช่วงต้นเดือนมีนาคมที่ผ่านมา เจ้าตลาดมือถืออย่าง Samsung ก็เพิ่งถูกตรวจพบว่ากระทำในลักษณะเดียวกันนี้ โดยมีการจำกัดความเร็วซีพียูกับแอปพลิเคชั่นกว่าหมื่นรายการ จนสุดท้ายบริษัทฯ ต้องออกซอฟต์แวร์มาเพื่อแก้ไขพร้อมทั้งขอโทษลูกค้า
ข่าวไอทีออนไลน์ เว็บไซต์ข่าวไอทีที่รวมเอาข่าวเทคโนโลยีทั่วโลก มาอัพเดทให้ได้ติดตามข่าวสารของไอทีได้ทางข่าวไอทีออนไลน์ทุกวัน